ท่ามกลางกระแสการแข่งขันอันร้อนแรงของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ZEEKR X ได้ก้าวขึ้นด้วยวิสัยทัศน์อันชัดเจนของความเป็น “Urban Future Mobility” ที่ผู้คน ยานยนต์ และเทคโนโลยี ล้วนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว
ZEEKR X เป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ตั้งแต่ประตูไร้กรอบไปจนถึงระบบไฟอัจฉริยะภายในห้องโดยสาร ทุกองค์ประกอบของ ZEEKR X เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับรถและระหว่างตัวรถกับเมือง — ให้แนบแน่นและเป็นหนึ่งเดียวมากยิ่งขึ้น
บทความนี้จะพาคุณสำรวจ เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของการเดินทางยุคใหม่ ZEEKR X สื่อสารผ่านภาษาของการออกแบบและเทคโนโลยีอย่างไร ผ่านสองมิติที่สำคัญ คือ นวัตกรรมที่ผสานเข้ากับฟังก์ชันและปรัชญาแห่งออกแบบ
เบื้องหลังความงดงามระดับพรีเมียมที่ซ่อนตัวอยู่ในแนวคิดการออกแบบ ZEEKR X
ความสวยงามของการออกแบบรถยนต์เปรียบเสมือน “งานประณีตศิลป์” (Restrained Art) ที่ต้องมีความแม่นยำของสัดส่วนการออกแบบเพื่อก่อให้เกิดเป็นมิติและจังหวะแห่งความงดงามอย่างกลมกลืน เพราะ “สัดส่วน” ที่แม่นยำ คือสิ่งที่สร้างความสมดุลและความรู้สึกกลมกลืนในทุกมุมมอง ZEEKR X ถูกออกแบบมาบนความตั้งใจจะหลุดพ้นจากกรอบและรูปทรงเดิม ๆ ของรถยนต์ทั่วไป แต่ยังคงยึดแก่นแท้ของความงาม — สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio)
ใน ZEEKR X อัตราส่วนของความสูงกระจังหน้าเทียบกับความสูงของรถ อัตราส่วนของกระจกมองข้างเทียบกับด้านข้างของตัวรถ และอัตราส่วนของฝาท้ายเทียบกับความสูงรวมทั้งหมด ล้วนถูกกำหนดไว้อย่างแม่นยำที่ 0.618 เพราะความใส่ใจในสัดส่วนนี้เอง ไม่ว่าคุณจะมองจากมุมใด ZEEKR X ก็ให้ภาพที่สมดุล สบายตา และลงตัวแบบที่ไม่ต้องพยายาม
ในการออกแบบยานยนตร์ มีแนวคิดหนึ่งที่เรียกว่า “จุดศูนย์กลางทางสายตา” (Visual Center) หากจุดนี้อยู่ใกล้ด้านหน้า จะให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหว แต่ถ้าอยู่ถัดไปทางด้านหลังมากขึ้น จะให้ความรู้สึกมั่นคงและหนักแน่นยิ่งขึ้น ในการออกแบบ ZEEKR X ทีมดีไซน์ได้ยึดสัดส่วนทางสุนทรียะอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างสมดุลที่กลมกลืนทั้งในมิติของความสวยงามและความรู้สึก โดยการวาง จุดศูนย์กลางทางสายตาไว้ด้านหลังเล็กน้อย ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของความมั่นคง มอบความรู้สึกที่แน่น หนักแน่น และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นเมื่อมองจากภายนอก
ดีไซน์ที่ตอบโจทย์นวัตกรรมแห่งการขับเคลื่อนเพื่อการใช้งานจริง
ZEEKR X ออกแบบฟังก์ชันใช้งานให้แตกต่างไปจากแนวทางของอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิม ๆ ไม่ได้เน้นเพียงแค่ “การอัดแน่นฟีเจอร์” ลงไป แต่ยึดโยงกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางจังหวะเร่งรีบของเมืองใหญ่ โดยสร้างสรรค์ชุดฟีเจอร์ (Feature Matrix) ที่แม่นยำ ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในชีวิตจริง
ประสบการณ์หรูที่สัมผัสได้เต็มอารมณ์ ในพื้นที่ที่ออกแบบอย่างมีความหมาย
ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR X ชวนให้สัมผัสถึงความประณีตของงานฝีมือชั้นเลิศและบรรยากาศที่ถูกสร้างอย่างชาญฉลาดจากนวัตกรรม ด้วยไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร Ice Block Crystal Ambient Light ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถ้ำน้ำแข็งบนหมู่เกาะสฟาลบาร์ด (Svalbard Islands') สร้างเอฟเฟกต์แสงได้อย่างมีมิติ เปล่งประกายราวกับแสงยามส่องผ่านผลึกคริสตัล ระบบไฟอัจฉริยะ LED มากถึง 110 ดวง ที่ซ่อนอยู่ภายใน ช่วยแต่งแต้มแสงแบบ “Urban Glow” ให้ห้องโดยสารเปล่งประกายอย่างละมุน และให้สัมผัสถึงมิติของความเงียบสงบ แสงไฟ LED แบบสองเฉดสี ได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบภายในบ้านระดับลักซ์ชัวรี พร้อมปรับโหมดให้เข้ากับบรรยากาศได้ทุกช่วงเวลาทั้งแสงโทนเย็นสำหรับอ่านหนังสือและแสงโทนอุ่นมอบความรู้สึกผ่อนคลายได้ มอบบรรยากาศที่ “ปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์” อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเติมความรู้สึกหรูหรา พร้อมรักษาสมดุลระหว่างความยั่งยืนและประสบการณ์แห่งสัมผัส
ทุกรายละเอียดในห้องโดยสารของ ZEEKR X ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อยกระดับความรู้สึกในทุกประสาทสัมผัส ทำให้ที่นี่...ไม่ใช่แค่ห้องโดยสาร แต่คือพื้นที่ส่วนตัวของผู้ขับขี่ที่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนบ้าน…ในทุกการเดินทาง
การออกแบบที่ยึด "คน" เป็นหัวใจหลัก : เมื่อเทคโนโลยี...หันกลับมาเข้าใจมนุษย์อีกครั้ง
จากความยาวตัวรถ 4,432 มม. การออกแบบส่วนหน้าสั้น ผสานกับระบบกล้องรอบคัน 360° ช่วยให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
เรื่องความปลอดภัยใน ZEEKR X ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ — แต่คือปรัชญา
ระบบ ZEEKR AD (Zeekr Advanced Driving Assistance Systems) ผสานการทำงานของกล้อง 5 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และเซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 จุด เพื่อสร้างเครือข่ายความปลอดภัยรอบคัน เสริมทั้งการรับรู้และการตอบสนองของผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์ ระบบถุงลมนิรภัย 7 จุด ให้การปกป้องร่างกายผู้นั่งและผู้ขับอย่างครอบคลุม ด้วยการผสานระหว่างเทคโนโลยีช่วยขับอัจฉริยะ และนวัตกรรมความปลอดภัยล่าสุด ZEEKR X เปลี่ยนการขับขี่ในเมืองให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัย สมูท และมั่นใจในทุกการเดินทาง
ปรัชญาการออกแบบของ ZEEKR X คือเทคโนโลยีต้องตอบสนองความต้องการของมนุษย์อยู่เสมอ ช่องแอร์แบบซ่อน พร้อมการควบคุมทิศทางและน้ำหนักลมแบบ “Breeze Mode” ช่วยให้ลมจากช่องแอร์ควบคุมอุณหภูมิภายในรถอย่างแผ่วเบา โดยไม่ให้มีมีลมแรงพุ่งใส่ตัวผู้โดยสารแบบช่องแอร์ทั่วไป และเพื่อสุขภาพที่ดีในทุกลมหายใจ ระบบปรับอากาศยังมาพร้อมเครื่องฟิลเตอร์ CN95 ที่สามารถกรองมลภาวะจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบบรรยากาศที่สดชื่นและสะอาดในทุกช่วงเวลา
วัสดุตกแต่งสีโรสโกลด์บริเวณคอนโซลกลาง ผ่านกระบวนการชุบผิว (Anodization process) เพื่อให้พื้นผิวสัมผัสโลหะในทุกจุดสัมผัสมีลักษณะเรียบเนียน ช่วยเติมความละมุนให้กับเส้นสายการออกแบบที่ล้ำสมัย แม้แต่แรงต้าน (damping) ของฝาปิดช่องชาร์จไฟที่ถูกคำนวณไว้อย่างละเอียดที่ 0.35 N·m ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณเปิด-ปิดผ่านปลายนิ้วได้อย่างนุ่มนวล
การตัดสินใจปรับดีไซน์มือเปิดประตูไฟฟ้า(Hidden Door Handle) การซ่อนช่องไล่ฝ้าที่กระจกหน้า รวมถึงการเพิ่มข้อมูลบนมาตรวัดไปไว้ในหน้าจอแสดงผลแบบเออาร์ (AR-HUD) ทั้งหมดนี้คือการออกแบบที่ยึดแนวคิดแบบ “น้อยแต่มาก” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของสไตล์
เพราะทีมออกแบบ ZEEKR เข้าใจดีว่า ผู้ใช้งานไม่ได้ต้องการแค่ “ฟังก์ชัน” — แต่ต้องการ “ประสบการณ์” ที่ฟังก์ชันเหล่านั้นมอบให้ตลอดการเดินทางไปกับรถของเรา
ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์มุ่งเน้นไปที่การแข่งขันด้านระยะทางวิ่งและฮาร์ดแวร์ ZEEKR X เลือกนำเสนออีกทางเลือกที่แตกต่าง ผ่านการออกแบบอัจฉริยะและนวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
ตั้งแต่ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร Ice Block Crystal Ambient Light ที่ชวนดื่มด่ำในห้องโดยสารไปจนถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ZEEKR AD (Zeekr Advacnced Driving Assistance Systems) ทุกฟีเจอร์ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในเมือง ที่ไม่ใช่แค่การเพิ่มเทคโนโลยีเข้าไปเท่านั้น แต่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่เพื่อเติมเต็มความปลอดภัยและความหรูหราเข้าด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ ZEEKR X จึงเป็นมากกว่าแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นทางเลือกแห่งอนาคตสำหรับการใช้ชีวิตในเมือง เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร นั่นไม่ใช่เพียงการเลือกรูปแบบการเดินทาง แต่เป็นการเลือกไลฟ์สไตล์ นิยามใหม่ที่น่าหลงใหลที่สุดของงานออกแบบเชิงอุตสาหกรรมในยุคของ Urban Future Mobility